บจธ.เปิดรับฟังความคิดเห็นภาคประชาชนโดยสถาบันจะชื้อที่ดินเพื่อให้ประชาชนมีสิทธิทำกิน

บจธ.เปิดรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชนโดยสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดินโดยซื้อที่ดินสวนปาล์มเก่าจัดสรรให้เกษตรกร“ ชุมชนน้ำแดงพัฒนา” สุราษฎร์ธานีเข้าทำกิน
วันที่ 22ม.ค.63  ณ โรงแรมบรรจงบุรี อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี บจธ. จัดประชุมการรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชน โดยสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน โดยซื้อที่ดินสวนปาล์มเก่าจัดสรรให้เกษตรกร“ ชุมชนน้ำแดงพัฒนา” สุราษฎร์ธานีเข้าทำกิน โดยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เล็งเห็นความสำคัญในการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรในเรื่องที่ดินทำกินโครงการของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน ซึ่งได้ดำเนินการผ่านโครงการของสถาบันบริหารจัดการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในการแก้ไขปัญหาด้านที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยการป้องกันการสูญเสียสิทธิเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน โดยขายฝากตลอดจนส่งเสริมการใช้ประโยชน์ในที่ดินเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นผู้กำกับดูแลทั้งนี้ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ดำเนินการ บจร. ซึ่งได้ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรให้มีที่ดินทำกินไปแล้ว 2,631 จำนวน 877 ครัวเรือน จำนวนที่ดินที่บจธ. ดำเนินการ 3,151 ไร่ ในโครงการตามภารกิจของบจธ. ทุกโครงการจะต้องน้อมนำแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 เรื่อง“ ศาสตร์พระราชา” มาเป็นหลักในการพัฒนาที่ดินในโครงการเมื่อวันพุธที่ 22 มกราคม 2563 ด้วยสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. เปิดรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชนเกี่ยวกับร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการเพื่อการกระจายการถือครองที่ดินที่เป็นธรรม ณ โรงแรมบรรจงบุรี ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี การประชุมมีภาคประชาชนเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชกฤษฎีกาฯดังกล่าวเป็นจำนวนกว่า 200 คน โดยมีพล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน คณะทำงานด้านกฎหมายการสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนรองนายกรัฐมนตรี (พลเอกประวิตรวงษ์สุวรรณ) เป็นประธาน
จากปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมและการบังคับใช้กฎหมายส่งผลให้นโยบายการจัดสรรที่ดินทำกินแก่เกษตรกรไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้อย่างแท้จริงข้อมูลจากการสำรวจพบว่าทั่วประเทศมีประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกินได้ขึ้นทะเบียนขอรับจัดสรรที่ดินถึง 800,000 ราย หลายปีที่ผ่านมาจึงเกิดปัญหากลุ่มเกษตรกรรวมตัวกันเข้าไปใช้ประโยชน์ในที่ดินที่ถูกทิ้งรกร้างในหลายพื้นที่ทั่วประเทศจนกลายเป็นปัญหาขัดแย้งกับเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินทั้งที่เป็นหน่วยงานของรัฐและภาคเอกชนเกิดการฟ้องร้องขับไล่บังคับคดีประชาชนและเกษตรกรผู้ไร้ที่ดินทำกินในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งเรื่องที่ดินจึงถือเป็นภารกิจสำคัญในการเข้าไปดำเนินการให้บจธ. ในฐานะหน่วยงานที่แก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินจึงถือเป็นภารกิจสำคัญในการให้ความช่วยเหลือสนับสนุนกลุ่มคนดังกล่าว ทำให้มีที่ดินทำกินสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงอย่างมั่นคง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีกลุ่มเกษตรกรจำนวนมากเข้ามาขอความช่วยเหลือจากเกษตรกรที่ตำบลคลองน้อย อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานีจำนวน 167 คน ได้รวมตัวกันไปในในสวนปาล์มที่ถูกทิ้งรกร้างไม่มีการใช้ประโยชน์มาตั้งแต่ปี 2531-2551 โดยร่วมกันสร้างเป็นชุมชนชื่อว่า“ ชุมชนน้ำแดงพัฒนา” เข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินโดยการทำสวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน สวนผลไม้ต่าง ๆ และที่อยู่อาศัยเมื่อเกษตรกรเข้าไปอยู่ในพื้นที่ปรากฏว่าได้ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีข้อหาบุกรุกและฟ้องขับไล่จากบริษัทเอกชนต่อมากลุ่มเกษตรกรได้ร่วมกันก่อตั้ง“ สหกรณ์การเกษตรสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ จำกัด และได้ทำหนังสือขอรับการช่วยเหลือจากบจธ. โดยจัดซื้อที่ดินในท้องที่ตำบลคลองน้อย อำเภอชัยบุรีจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้สหกรณ์การเกษตรสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ จำกัด ปัจจุบันบจธ. มีแผนในการจัดซื้อที่ดินเนื้อที่ประมาณ 62 ไร่ ให้แก่เกษตรกรจำนวน 27 ครัวเรือน ซึ่งเป็นสมาชิกของสหกรณ์การเกษตรสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้โดยการให้เช่าซื้อระยะเวลา 30 ปี โดยคิดค่าธรรมเนียมร้อยละ 3 ต่อปี.

โสภณ โชติกุลพล ผู้อำนวยการ-บรรณาธิการใหญ่ หนังสือพิมพ์-เว็บไซต์ภาพข่าวอาชญากรรมภาค8 รายงาน

Back To Top