เปิดคำสั่งให้ พ.ต.ต.- ร.ต.ท. ออกจากราชการ เอี่ยวคดียิงสารวัตรทางหลวง

ตามกันต่อเนื่องความคืบหน้าคดียิงสารวัตรทางหลวง ก่อนหน้านี้ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” รอง ผบ.ตร. ได้สอบปากคำ 25 ตำรวจ รวมถึงแขกที่ไปร่วมงานเลี้ยงที่บ้านของ “กำนันนก” นายประวีณ จันทร์คล้าย ภายหลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญ “สารวัตรแบงค์” พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ถูกยิงเสียชีวิตในงานเลี้ยงดังกล่าว โดยผู้ลงมือคือ “หน่อง ท่าผา” นายธนัญชัย หมั่นมาก ลูกน้องคนสนิทกำนันคนดัง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2566 มีหนังสือคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 371/2566 เรื่อง “ให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน” ระบุว่า ด้วย พันตำรวจตรีเกียรติศักดิ์ สมสุข ตำแหน่ง สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน โดยต้องหาคดีอาญาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.476/2566 ลงวันที่ 9 กันยายน 2566 ข้อหา “เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต , เพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ หรือให้ได้รับโทษน้อยลง ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด ร่วมกันช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษเพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือ โดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม” เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 กันยายน สถานที่เกิดเหตุภายในบ้านพักของนายประวีณ หรือนก จันทร์คล้าย กำนันตำบลตาก้อง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม และมีเหตุให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามกฎ ก.ตร.

และในวันเดียวกันนั้นยังมีหนังสือคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ที่ 428/ 2566 เรื่อง “ให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน” ด้วย ร้อยตำรวจโท นิมิตร สลิดกุล ตำแหน่ง รองสารวัตร (ปฏิบัติการสายงานจราจร) สถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน โดยต้องหาคดีอาญาข้อหา “เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เพื่อจะช่วยเหลือผู้อื่นมีให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง ,ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ช่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด ,ร่วมกันช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม” เหตุเกิด เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2566 เวลาประมาณ 21.30 น. ที่บ้านเลขที่ 55/1 หมู่ 2 ตำบลตาก้อง อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม และมีเหตุให้ออกจากราชการไว้ก่อนตาม กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.2547 ข้อ 3 (1) (2) (3)

ไทยนิวส์

Back To Top