“กองปราบ” เจอปืนของกลางซึ่งเป็นวัตถุพยานชิ้นสำคัญแล้ว ตรวจพบเป็นปืนของตำรวจที่ขับรถให้ผู้การจังหวัดนครปฐม ที่นำมาขายต่อให้ “อดีตกำนันนก” หลัง “นายหน่อง” ใช้ก่อเหตุ ได้นำมาฝากให้คนงานในบ้านกำนันนก นำไปซุกซ่อนทำลายหลักฐาน
ความคืบหน้าคดี นายธนัญชัย หรือหน่อง หมั่นมาก อายุ 45 ปี ลูกน้องกำนันนก คนดังเมืองนครปฐม มือปืนสังหารโหด “สารวัตรสิว หรือสารวัตรแบงค์” พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว อายุ 31 ปี สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. นายตำรวจหนุ่มตงฉินคางานเลี้ยงบ้านตัวเอง
เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลัง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สั่งให้ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.5 บก.ป. นำกำลังลงพื้นที่สืบหาอาวุธปืนของกลางกระบอกที่นายธนัญชัย ใช้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ พบปืนกระบอกที่นายธนัญชัยใช้ก่อเหตุ ยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว แล้ว เป็นอาวุธปืนยี่ห้อกล็อก 19 ขนาด 9 มม.
จากการตรวจสอบอาวุธปืนดังกล่าว พบว่าเป็นปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำหน้าที่ขับรถให้กับผู้บังคับการจังหวัดนครปฐม ขายต่อให้กับ นายประวีณ หรือ กำนันนก ก่อนที่ นายประวีณ จะนำมาให้ นายธนัญชัย ลูกน้องคนสนิท พกติดตัวไว้ใช้ เพื่อคอยคุ้มกันตนเอง จากนั้นหลังนายธนัญชัย ก่อเหตุเสร็จได้นำอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวไปฝากไว้กับคนงานชาวพม่าที่อยู่ภายในบ้านกำนันนก นำไปฝังซ่อนไว้ใต้กรงสุนัข ส่วนอาวุธปืนอีกกระบอกที่นายธนัญชัย พกติดตัวในวันที่ถูกวิสามัญนั้น ก็เป็นของ นายประวีณ ให้ไว้ใช้พกพาติดตัวเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้จากแนวทางสืบสวนของชุดคลี่คลายคดีดังกล่าว ยังพบหลักฐานว่า หลังเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยให้การช่วยเหลือ นายธนัญชัย จริง อีกทั้งยังปล่อยเวลาล่วงเลยนานพอสมควร ก่อนจะโทร. ประสานแจ้งเหตุกับทางสถานีตำรวจท้องที่ จึงทำให้กลุ่มลูกน้องของกำนันนก มีเวลามากพอที่จะจัดเก็บทำลายพยานหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุได้ทัน ก่อนที่ตำรวจท้องที่จะเข้ามาถึง เบื้องต้นได้มีการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอและร่องรอยลายนิ้วมือแฝง ไว้เป็นดำเนินการตรวจสอบเป็นเรียบร้อยแล้ว
ไทยรัฐ
