เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจสืบสวนภาค 8 ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี สัญชาติ รัสเชีย ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 647/2566 ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2566 ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์” ได้ที่โรงแรมชื่อดัง ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายเอ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุเป็นเจ้าของคริปโต ฟอกเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์เครือข่ายกัมพูชา ที่เป็นต้นเหตุคดีสลด พ่อฆ่ายกครัว 3 ศพที่ จ.สมุทรปราการ และพยายามฆ่าตัวตายหนีความผิดแต่กลับไม่สำเร็จบาดเจ็บสาหัส สาเหตุมาจากหนี้สินจำนวนมาก มีปมเหตุจากโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงเอาเงินนับล้าน สำหรับคดีนี้มีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับในคดีนี้ทั้งหมดแล้ว 5 ราย เป็นชาย 3 ราย และหญิง 2 ราย แยกเป็นบัญชีม้าแถว 1 ที่มีการถอนเงินไปแล้ว 1.7 ล้าน รวม 14 ครั้ง มีการโอนย้ายไปยังบัญชีม้าแถว 2 ซึ่งตำรวจได้หลักฐานออกหมายจับได้อีก 4 ราย และขยายผลพบเส้นทางการเงินบางส่วนโอนออกไปต่างประเทศ และจะขยายผลเกี่ยวกับเว็บปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดด้วย
มีรายงานข่าวแจ้งว่า เช้าวันเดียวกันนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้างานกำกับดูแลด้านการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางไปยังประเทศกัมพูชา เพื่อติดตามความคืบหน้าการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆ่ายกครัว 3 ศพ พร้อมเจรจาและหารือกับ ผู้บัญชาการตำรวจประเทศกัมพูชา และนายตำรวจระดับสูงของกัมพูชา เพื่อขอความร่วมมือในการปราบปราม “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ชาวจีน ที่ใช้ประเทศกัมพูชา เป็นฐานหลอกลวงคนไทยแล้ว
เดลินิวส์
