เมษาเดือด ดาบตำรวจสภ.คีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานีสุดคลั่งควง M16 พร้อมพวกบุกบ้านพักกราดยิงผู้ใหญ่บ้านชื่อดังกว่า 100 นัด ล่าสุดจับตัวมือปืนในกลุ่มได้แล้ว 1 คน แต่ด.ต.คลั่งเจ้าตัวไม่ขอมอบตัว เจ้าหน้าที่เตือนเฝ้าระวังเป็นบุคคลอันตราย ตั้งรางวัลนำจับ 50,000 บาท

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2566 ที่ผ่านมาช่วงเวลาประมาณ 13:30 น. มีการรับแจ้งเหตุจากชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีเหตุการณ์ยิงกันเกิดขึ้นจนทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานีรุดเข้าตรวจสอบพบสถานที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นในสวนปาล์มหมู่ที่ 8 ตำบลท่าขนอน อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงพบร่างผู้เสียชีวิตบริเวณหน้าบ้านเป็นผู้หญิงทราบชื่อคือนางนิลทิพย์ ปาลคะเชนทร์ หรือแตง อายุ 49 ปี ภรรยาของนายธรรมรงค์ นิลนิยม หรือผู้ใหญ่รงค์ (เจ้าของบ้าน)อายุ 60 ปีอดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.บางงอน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานีที่ต่อมาถูกพบเป็นศพอยู่ในบ้านพักดังกล่าวพร้อมกับนายพรศักดิ์ เพชรชู หรือผู้ใหญ่กรอก อายุ 56 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 ต.ท่าขนอน ญาติของนางนิลทิพย์ โดยคนร้ายที่บุกกราดยิงดังกล่าวสืบทราบคือ ด.ต.อรรถพร วิเชียร ผบ.หมู่ งานป้องกันปราบปราม สภ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมพวกรวม 4 คนใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 และอาวุธปืนลูกซองยิงถล่มบ้านพักของผู้ใหญ่บ้านดังกล่าว

ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนต่อมาสืบทราบได้แก่นายธรรมรัตน์ วิเชียร อายุ 48 ปีพี่ชาย ด.ต.อรรถพร (เสียชีวิตในที่เกิดเหตุยิงปะทะกับทางผู้ใหญ่รงค์เจ้าของบ้าน) นายมานพ ว่างงาน อายุ 57 ปีเพื่อนของนายธรรมรัตน์ (ถูกควบคุมตัวในวันต่อมาได้ที่บ้านพักใน อ.ทับปุด จ.พังงา หลังจากก่อเหตุนายมานพได้พยายามหลบหนี) และนายอรรถพล วิเชียร อายุ 25 ปี บุตรชายของ ด.ต.อรรพร (พบร่างถูกยิงเสียชีวิตในรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้คันก่อเหตุที่จอดไว้ใต้ต้นไทรใกล้กุฏิที่พักสงฆ์วัดไกรสรเขตราราม หมู่ 4 ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน ภายในรถพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. 1 ปลอกเมื่อคืนวันที่เกิดเหตุการณ์) ต่อมาวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมาศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีอนุมัติหมายจับ นายมานพ ว่างงาน อายุ 57 ปี ชาว อ.คีรีรัฐนิคม กับ ด.ต.อรรถพร ใน 3 ข้อหาหนักในความผิดข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืน ซึ่งทางราชการไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง และข้อหาพกพาอาวุธและเครื่องกระสุนไปในเมืองหมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร และวันเดียวกันตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีคำสั่งให้ ด.ต.อรรถพร ออกจากราชการไว้ก่อน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2566 ชาวบ้านได้พบศพ น.ส.พนิดา หรือตั๊ก นิลนิยม อายุ 34 ปี ภรรยา ด.ต.อรรถพร และเป็นบุตรสาวนายธรรมรงค์ นิลนิยม หรือผู้ใหญ่รงค์ ผู้เสียชีวิต 1 ใน 4 ศพที่ถูก ด.ต.อรรถพรพาพวกไปยิงถล่ม ซึ่งศพ น.ส.พนิดามีสภาพบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม. นอนเสียชีวิตในห้องพักรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ต.ท่าขนอน อ.คีรีรัฐนิคม โดยสืบพบว่า ด.ต.อรรถพร เป็นผู้พามาเปิดห้องพักเมื่อเย็นวันที่ 7 เมษายน 2566 และขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์ ออกไปกับนายนายธรรมรัตน์ ในวันที่ 8 เม.ย.66 ไปก่อเหตุยิงถล่มที่บ้านนายธรรมรงค์ พ่อตาแล้วไม่กลับมา คาดว่า ด.ต.อรรถพร ยิง น.ส.พนิดา เสียชีวิตก่อนออกไปก่อเหตุ

เวลา 13.00 น. ญาติได้นิมนต์พระสงฆ์ 2 รูป มาทำพิธีเชิญวิญญาณ น.ส.พนิดา โดยเรียกให้กลับไปยังบ้านใน อ.คีรีรัฐนิคม

น.ส.วิไลวรรณ หรือแมว นิลนิยม ญาติลูกพี่ลูกน้องที่มาเชิญวิญญาณ กล่าวให้ข้อมูลว่า “หลังจากเกิดเหตุยิง 4 ศพ และน.ส.พนิดาได้หายตัวไป ญาติๆ ได้แต่ภาวนาให้รอดชีวิตกลับมาบ้าน และทุกคนต่างเฝ้ารอ อยากให้ปลอดภัย ไม่คิดว่าจะมาเกิดเรื่องแบบนี้ ส่วนปมปัญหาตนเองไม่ทราบ ที่ผ่านมาทราบเพียงว่าทั้ง 2 คบหากัน แต่ทางผู้ใหญ่ธรรมรงค์ไม่ให้คบหา”

ต่อมา พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.ภาค 8 และ พล.ต.ต.ศรัญญู ชํานาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้เดินทางมาตรวจห้องพักรีสอร์ตที่เกิดเหตุ โดย พล.ต.ท.สุรพงษ์กล่าวสั้นๆ ว่า สถานการณ์กำลังจะคลี่คลาย ช่วงบ่ายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้รับรายงานพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส ซึ่ง ด.ต.อรรถพรใช้เป็นพาหนะไปก่อเหตุถูกจอดทิ้งไว้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คีรีรัฐนิคม ประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 เข้าตรวจสอบและเก็บลายนิ้วมือแฝงในรถคันดังกล่าว ส่วน ด.ต.อรรถพร ยังไม่มีเบาะแส

ขณะเดียวกันเวลา 14.00 น. ชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ติดตามจับกุมตัวนายมานพ ว่างงาน อายุ 57 ปี ชาว อ.คีรีรัฐนิคม 1 ในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับได้ที่บ้านหลังหนึ่งใน อ.ทับปุด จ.พังงา และรีบควบคุมตัวกลับมาที่ สภ.คีรีรัฐนิคม ซึ่ง พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และ พล.ต.ต.นภัณวุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภาค 8 ร่วมกันซักถามปากคำนายมานพ

เบื้องต้น นายมานพให้การว่า “หลังก่อเหตุบุกยิงถล่มบ้านนายธรรมรงค์แล้ว ด.ต.อรรถพร พร้อมนายอรรถพล บุตรชาย ได้ขับรถเก๋งโตโยต้า รุ่นวีออส ไปส่งตนที่บ้านพัก ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน และตนรีบหลบหนีออกจากพื้นที่ทันที เพราะสังเกตเห็นว่า ด.ต.อรรถพรมีพฤติกรรมแปลกๆ คล้ายคนคุมสติไม่ได้ ตนยอมว่าหวาดกลัวเป็นอย่างมากจึงต้องรีบหนี”

ล่าสุดเช้าวันที่ 11 เมษายน 2566 บิ๊กโจ๊ก (พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.) มีคำสั่งอนุญาตให้จัดการขั้นเด็ดขาดหาก “ด.ต.อรรถพร” ผู้ต้องหายิงถล่มในสวนปาล์มขัดขืนต่อสู้ จนท. ล่าสุด ผบช.ภ.8 มีคำสั่ง เด้ง ผกก.สภ.คีรีรัฐนิคมช่วยราชการ ภาค8 พร้อมตั้งกรรมการสอบเอาผิด เซ่นคดี 6 ศพ ฐานปล่อยปะละเลย ส่วนดาบปืนโหดยังกบดานในพื้นที่ ฝากข้อความผ่านญาติ ไม่ขอมอบตัว เหตุไม่มีอะไรจะเสีย ในขณะที่ พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราชผู้การสุราษฎร์ ประกาศเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวัง เพราะเป็นบุคคลอันตราย มีอาวุธเครื่องกระสุนครบมือ ทั้งอาวุธสงครามและปืนสั้น หากใครมีเพราะแสแจ้งด่วน.มีรางวัล 50,000 บาท..ประสงค์จะแจ้งหรือให้เบาะแสได้ที่ พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี หมายเลขโทรศัพท์ 081 696 144 หรือ พ.ต.อ.ไพศาล สังข์เทพ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี หมายเลขโทรศัพท์ 088 4926929

ที่มา-ภาพ : สำนักข่าวหนังสือพิมพ์ภาพข่าวและเว็บไซตือาชญากรรม ภาค 8

เรียบเรียง-เผยแพร่ : กองข่าวเฉพาะกิจ สำนักข่าวหนังสือพิมพ์ภาพข่าวและเว็บไซต์อาชญากรรม ภาค 8

Back To Top