เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องให้นายทหารรับราชการ จำนวน 765 อัตรา ประกาศ ณ วันที่ 8 กันยายน 2565 ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายทหารรับราชการสนองพระเดชพระคุณ โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษานายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป
เปิดประวัติ “บิ๊กเกรียง” พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ เจ้าของฉายา “นักรบกล้าใต้สุดสยาม”
หากจะย้อนประวัติของท่านในอดีต ต้องบอกว่านายทหารผู้นี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เคยผ่านสมรภูมิมามากมายสมกับคำว่า “ชายชาติทหาร”
สำนักข่าว SPMC สื่อเพื่อสันติ ให้ข้อมูลว่า เมื่อครั้งเป็น ร้อยโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ ทำหน้าที่ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 4203 กรมทหารพรานที่ 42 จู่โจม ได้มีผลงานด้านยุทธการไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์เขตงาน พัทลุง-ตรัง-สตูล การปราบปรามโจรจีนคอมมิวนิสต์ และนี่คือหนึ่งในหลายยุทธการของท่าน
เมื่อ 15 ก.พ.31 กรมทหารพรานที่ 42 (จู่โจม) ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจกวาดล้างทำลายที่มั่นของโจรจีนคอมมิวนิสต์มาลายา ตามแผนยุทธการทักษิณของกองกำลังผสมเฉพาะกิจไทย ซึ่งกรมทหารพรานที่ 42 (จู่โจม) โดยพันเอกพงษ์ศักดิ์ เอกบรรณสิงห์ ผู้บังคับการกรม ได้มอบหมายภารกิจดังกล่าวให้กองร้อยทหารพรานที่ 4203 มีร้อยโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ เป็นผู้บังคับกองร้อย และกองร้อยทหารพรานที่ 4207 มีร้อยโทจรูญ เพ็ชรวา เป็นผู้บังคับกองร้อย เข้ารับผิดชอบปฏิบัติตามแผนฯ
เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 31 กองร้อยทหารพรานที่ 4203 สมทบด้วยชุด ช.ตรวจค้น เข้าทำการลาดตระเวนพิสูจน์ทราบตรวจค้น ค้นหา กวาดล้าง ทำลาย ที่ตั้งและแหล่งกำลังของโจรจีนคอมมิวนิสต์ ในพื้นที่ ต.ธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลา จนกระทั่งเมื่อเวลา 13.20 น. ขณะทำการลาดตระเวนเข้าใกล้ที่หมายได้ถูกกองกำลังโจรจีนคอมมิวนิสต์ซุ่มยิง ร้อยโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 4203 จึงได้สั่งการให้หน่วยดำเนินกลยุทธ์ยิงโต้ตอบ จนกระทั่งโจรจีนคอมมิวนิสต์ได้ล่าถอย ร้อยโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ จึงได้นำกำลังไล่ติดตามโจรจีนคอมมิวนิสต์กลุ่มดังกล่าวไป จนเกิดการปะทะกันอีกหลายครั้ง และสามารถยึดทำลายค่ายพักโจรจีนคอมมิวนิสต์ได้
ประวัติส่วนตัวท่าน พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ เป็นชาว จ.สุราษฎร์ธานี เกิดเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2506 อายุราชการยาวถึงปี 2566 เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 22 (ตท.22) และนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่น 33 (จปร.33) รุ่นเดียวกับ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก
พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ติดยศร้อยตรี เมื่อปี 2529 เริ่มรับราชการครั้งแรกที่กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 25 (ร.25 พัน 3) ค่ายวิภาวดีรังสิต จ.สุราษฎร์ธานี
จากนั้นชีวิตราชการเติบโตอยู่ในกองทัพภาคที่ 4 มาตลอด เคยเป็นผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 42 เปิดยุทธการไล่ล่าโจรจีนคอมมิวนิสต์ หรือ จคม. เคยเป็นเสนาธิการจังหวัดทหารบกปัตตานี รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 และเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 4 เมื่อปี 2562 ก่อนผงาดขึ้นเป็นแม่ทัพในปีถัดมา นับเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 คนที่ 13 ตั้งแต่ไฟใต้ปะทุขึ้นมาเมื่อปี 2547
สมัยเป็นรองแม่ทัพ พล.ท.เกรียงไกร ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับ “บิ๊กเดฟ” มาโดยตลอด กระทั่งรับไม้ต่อ ทำหน้าที่แม่ทัพดับไฟใต้ต่อไป รวมถึงภารกิจใหญ่เรื่องปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเป็นนโยบายที่ “บิ๊กเดฟ” ขับเคลื่อนมาตลอด นอกจากนั้น พล.ท.เกรียงไกร ยังมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับภาคประชาสังคมหลากหลายกลุ่ม จึงถือว่าเป็นนายทหารที่ได้รับการยอมรับจากแทบทุกภาคส่วนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
สำนักข่าวหนังสือพิมพ์ภาพข่าวและเว็บไซต์อาชญากรรม ภาค 8 ขอแสดงความยินดีกับท่านผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก(คนใหม่) ท่านพล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ “นักรบกล้าใต้สุดสยาม” ด้วยความที่มีนิสัยเป็นกันเอง พล.ท.เกรียงไกร จึงถือเป็นที่รักใคร่ของรุ่นพี่ เพื่อน และรุ่นน้อง เพราะเป็นทหารเข้าถึงง่าย เป็นกันเอง ส่งผลให้ชาวบ้าน มวลชน เข้ามาผูกมิตรทำให้มีการข่าวทุกระดับชั้น ทำให้ง่ายต่อการหาข่าว ทำงาน
ที่มา – ภาพ : สำนักข่าว SPMC สื่อเพื่อสันติ , สำนักข่าวอิศรา(ศูนย์ข่าวภาคใต้) , มติชน , เนชั่นทีวี
เรียบเรียง – เผยแพร่ : กองข่าวเฉพาะกิจ สำนักข่าวหนังสือพิมพ์ภาพข่าวและอาชญากรรม ภาค 8
#ข่าวอาชญกรรมภาค8 #ทุกอย่างเป็นไปเพื่อการขยายข่าวสู่สังคม #เพื่อพี่น้องประชาชน #สังคมต้องรับรู้ #สังคมเกาะป้องกัน #สังคมสดใส #สังคมความเป็นจริง #สู่สังคมมั่นคง #ประเทศชาติเจริญก้าวหน้า